สวนสาธารณะ กรุงเทพมหานคร กรุงเทพฯ เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วคือไม่มองจะมองไปจุดไหนก็พบเจอแต่แสงสีเสียงและตึกราในเกือบทุกตารางเมตร ในแต่ละวันหลายคนจำเป็นต้องเดินทางอย่างเหน็ดเหนื่อยด้วยสาธารณะขนส่ง ไม่ว่าจะเป็น BTS, MRT หรือรถเมล์ เพื่อแข่งกับเวลาและจราจรอันหนาแน่น ดังนั้นในวันธรรมดาหรือวันทำงานคนกรุงเทพแทบจะไม่ได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างแท้จริงเลย วัน ๆ เจอแต่เสียงดังของเครื่องยนต์และเสียงแตร พบเจอแต่ความวุ่นวายจนหาความสงบได้ยาก ซึ่งในวันนี้ผมจะมาแชร์ ‘สวนสาธารณะในกรุงเทพ’ ให้ทุกคนได้ไปผ่อนคลายและออกกำลังกายเพิ่มเอเนอร์จี้ให้กับตัวเองก่อนจะไปสู้งานอีกครั้ง
-
สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ สวนสาธารณะ กรุงเทพมหานคร
สวนสาธารณะ กรุงเทพมหานคร หากพูดถึงความร่มรื่นของพันธุ์ไม้นานาชนิดและบรรยากาศสุดร่มรื่นที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพ คงต้องนึกถึง ‘สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์’ โดยพื้นที่ภายในสวนมีขนาดใหญ่กว่า 196 ไร่ ซึ่งในสวนจะมีดอกไม้สีสันสวยงามเรียงรายไปตามพื้นที่ต่าง ๆ ของสวน มีทั้งพันธุ์ไทยและพันธุ์ต่างชาติให้รับชมและศึกษากันแบบเต็มที่ สวนสาธารณะใกล้ฉัน เหมือนได้เข้าไปสัมผัสกับธรรมชาติอย่างแท้จริงและสูดอากาศสะอาด ๆ ได้เข้าไปได้เต็มปอด ทั้งนี้ด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่หลักร้อยไร่และความสงบร่มรื่น จึงเหมาะมากสำหรับการมาปั่นจักรยาน, วิ่ง, ออกกำลังกาย หรือปิกนิกเพื่ออ่านหนังสือหรือฟังเพลงไปกับบรรยากาศสุดชิล
-
สวนสาธารณะ ลุมพินี
สวนลุมพินีหรือที่คนกรุงเทพรู้จักและเรียกกันในชื่อ ‘สวนลุม’ โดยสวนนี้เป็นสวนสาธารณะแห่งแรกแห่งแรกของประเทศไทย กินพื้นที่กว่า 360 ไร่ จัดตั้งมาตั้งแต่ในปี พ.ศ. 2468 จุดเด่นและความพิเศษของสวนไม่ได้มีเพียงแค่ความร่มรื่นของต้นไม้อันเขียวขจีกลางใจเมืองเท่านั้น แต่สวนลุมพินียังมีกิจกรรมให้คนเมืองอย่างเรา ๆ ได้ผ่อนคลายหลายอย่าง สวนสาธารณะใหม่ กรุงเทพ ไม่ว่าจะเป็น พายเรือ, จักรยานน้ำ, วิ่งออกกำลังกาย และยังมีชมรมสุขภาพให้เลือกอีกเยอะแยะมากมาย ตอบโจทย์ทั้งเด็กน้อยไปจนถึงผู้ใหญ่สำหรับการพักผ่อนในวันหยุด ในขณะเดียวกันการเดินทางก็ง่ายสุด ๆ สามารถเลือกเดินทางไปกับขนส่งสาธารณะอย่าง MRT, BTS และรถเมล์ประจำทาง
-
สวนหลวง ร.9
ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงได้จัดสร้าง ‘สวนหลวง ร.9’ ขึ้นมาเพื่อปลูกฝังให้ประชาชนได้อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ ดังนั้นภายในสวนจึงเต็มไปด้วยไม้นานาพันธุ์ อีกทั้งยังมีโซนหรือลานพฤกษพรรณไว้โดยเฉพาะ ความสวยงามของดอกไม้ก็ไม่ต้องพูดถึงเลยครับ เพราะมีหลายคนมาที่แห่งนี้เพื่อถ่ายรูปลงโซเชีบล รวมไปถึงพรีเวดดิ้งอีกมากมาย หากใครเข้ามาสูดอากาศและรับชมความสวยงามของดอกไม้ สวนหลวง ร.9 ไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน ส่วนใครเป็นสายรักสุขภาพหรืออยากออกกำลังกาย สวนหลวงก็เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่ดีมาก เพราะเนื้อที่มีมากกว่า 500 ไร่ จะมาเต้นแอโรบิก, เล่นโยคะ, วิ่งจ็อกกิ้ง หรือรำไทเก๊กก็ได้เหมือนกัน
-
สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ)
สวนวชิรเบญจทัศเรียกว่าเป็นศูนย์กลางแห่งหนึ่งที่ดีมากสำหรับพักผ่อนและการออกกำลังกาย โดยภายในสวนจะมีหลายอย่างและหลายกิจกรรมให้เรารับชม อย่างเช่น อุทยานผีเสื้อและแมลงขนาดเนื้อที่กว่า 6 ไร่ให้คุณได้ชมความสวยงามพรรณไม้ผีเสื้อสวย รวมไปถึงภายในสวนยังมีน้ำตกขนาดย่อมและลำธารสวย ๆ อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีโซนหรือลานร่มรื่นไว้สำหรับการปิกนิกโดยเฉพาะ ซึ่งเราสามารถปิ้งอาหารกินพร้อมไปกับการชมบึงน้ำขนาดใหญ่ อีกทั้งบริเวณนั้นยังมีบริการเรือสำหรับการพายเรือเล่นด้วยเช่นกัน ส่วนสายออกกำลังกายก็ไม่ต้องเป็นห่วงครับ เพราะในนั้นมีศูนย์กีฬาซึ่งรวบรวมสนามกีฬาชนิดต่าง ๆ เอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น สระว่ายน้ำ, สนามเทนนิส, สนามฟุตซอล, ห้องฝึกโยคะ, ห้องฟิตเนส ส่วนใครที่เป็นสายปั่นจักรยานก็น่าจะชอบ เนื่องจากในสวนมีเลนจักรยานให้ตลอดเส้นทาง
-
สวนจตุจักร
สถานที่ยอดฮิตอีกที่ของคนเมืองกรุงคือ ‘สวนจตุจักร’ เปรียบเสมือนกับพื้นที่สีเขียวไว้ให้คนกรุงเทพได้หายใจกันอย่างคล่องปอด เสมือนกับพื้นที่ให้ได้หลบหนีฝุ่นและควันจากท่อรถยนต์ตามท้องถนน ทั้งนี้จุดเด่นและไฮไลท์ของสวนแห่งนี้คือสะพานโค้งอันสวยงาม ที่ไม่ว่าใครมาก็จะต้องแชะกันสักรูปสองรูป รวมไปถึงยังมีหอนาฬิกาและนาฬิกาดอกไม้ให้รับชมกันเพลินตา ส่วนใครกำลังหาที่วิ่งร่มรื่นมองไปทางไหนก็มีแต่ความเขียวขจีของต้นไม้ ผมแนะนำเลยว่าสวนจตุจักรคือทางเลือกหนึ่งซึ่งตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ส่วนใครที่ออกกำลังกายเสร็จแล้วเกิดรู้สึกหิวขึ้นมาก็สามารถเดินไปตลาดนัดจตุจักรเพื่อซื้อของกินและช็อปปิ้งได้เพลิดเพลิน
-
สวนป่าเบญจกิติ
หากพูดถึงในเรื่องของความสวยงาม ‘ส่วนป่าเบญจกิติ’ คงต้องบอกว่าสวนแห่งนี้ไม่แพ้ใครอย่างแน่นอน เนื่องจากผู้ออกแบบคือ ‘ศาสตราจารย์อวี้ข่งเจี้ยน’ เป็นผู้ออกแบบด้วยตนเอง ซึ่งแนวคิดในการดีไซน์คือการนำเอาธรรมชาติมาช่วยในการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย ใช้ธรรมชาติสำหรับการบำบัดอากาศและสภาพแวดล้อมภายในเมือง หรือพูดง่าย ๆ ว่าการสร้างป่าไว้กลางกรุงฯ นั่นเอง โดยพื้นที่ของสวนมีทั้งหมด 450 ไร่ สามารถเข้าไปเดินเล่นเยี่ยมผลงานการออกแบบอันสวยงาม, ปั่นจักรยาน, วิ่ง หรือเล่นกีฬาต่าง ๆ ได้ตามใจชอบ แต่อย่างไรก็ดีห้ามพลาดที่จะไปโซนเกาะต้นไม้กลางบึงโดยเด็ดขาด เพราะจุดนี้เป็นไฮไลท์สำคัญที่ไม่ว่าใครมาก็จะต้องถ่ายรูปและเช็คอินกัน